หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555



รูปร่างแบบไหนเหมาะกับทรงผมแบบใด


รูปร่างแบบไหนเหมาะกับทรงผมแบบใด



มาดูกันดีกว่าค่ะว่า รูปร่างแบบไหนจะเหมาะกับทรงผมแบบใดบ้าง
รูปร่างแบบไหนเหมาะกับทรงผมแบบใด
สำหรับคุณผู้หญิงที่มีรูปร่างผอมสูง
ถ้าคุณผู้หญิงไว้ผมซอยสั้นกุดคุณจะดูเหมือนหัวเข็มหมุดเนื่องจากรูปร่างยาวสูงอยู่แล้ว ดังนั้นขอแนะนำว่าให้ไว้ผมยาวหรือหากไม่ชอบยาวมากๆ ไว้ยาวระดับแค่คางก็พอ หรือหากยาวกว่านั้นก็จะช่วยเติมเต็ม ทำให้คุณดูเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น หรือหากยากได้ลุคแบบเซ็กซี่ ส่ลองไว้ผมยาวเคลียไหล่ดัดอ่อนๆ ให้ดูเป็นลอนสวยเก๋แบบนี้ก็ดูเซ็กซี่ไม่เบาเลยค่ะ
สำหรับคุณผู้หญิงที่รูปร่างเล็ก
ไม่ควรไว้ผมยาวจนเกินไป เพราะจะดูเหมือนเด็กที่ผมยาวนึกภาพออกมั้ยคะ แบบว่าเด็กแปดขวบ แต่ผมยาวมากกว่าจะดูเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและจะไม่มีใครเข้าใจผิดว่าคุณเป็นเด็กวัย 12 แน่ ทางที่ดีควรเลือกไว้ทรงผมที่ดู เรียบหรูอย่างผมบ็อบ แต่ไม่ควรไว้สั้นมากจนเกินไปเพราะอาจทำให้คุณผู้หญิงดูเหมือนดูทอมบอยได้ค่ะ
สำหรับคุณผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่
ทรงผมที่เหมาะกับคุณ ถ้าจะให้ดูดีรับกันไปหมดทั้งหน้าตาและหน้าอกผมยาวและเป็นคลื่นจะดึงสายตามาที่ผมคุณหน้าอกก็จะไม่กลายเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลอีกต่อไป และที่สำคัญห้ามคุณผู้หญิงรวบผมตึง เด็ดขาดเพราะเมื่อผมถูกดึงขึ้นไปด้านบนหน้าอกคุณก็จะกลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาทันทีค่ะ
สำหรับคุณผู้หญิงที่มีรูปร่างตรงๆ แบบผู้ชาย ไม่ค่อยมีส่วนเว้าโค้งเท่าไหร่
สำหรับคุณผู้หยิงที่รุ้ตัวว่าตัวเองมีหุ่นแบบไม้กระดานแบบนี้ก็น่าเห็นใจค่ะ เนื่องจากไม่มีส่วนโค้งส่วนเว้าอยู่แล้วการไว้ผมซอยสั้นกุดจะทำให้คุณดูแมนเกินเหตุ ดังนั้นแนะนำให้ไว้ผมยาวเลยคางลงมาจะดีกว่า หรือจะเป็นจะเป็นผมยาวตรงๆ หรือดัดปลายก็หน่อยยังได้ ช่วยเพิ่มลูกเล่นได้น่าสนใจทีเดียวค่ะ 
รู้เคล็ดลับในการทำทรงผมที่เหมาะรับกับหุ่นของคุณผู้หญิงแล้ว อย่าลืมว่าเสื้อผ้าก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะรับกับทรงผม แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะไว้ผมทรงไหน หรือมีหุ่นอย่างไรก็ตาม 
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือความเป็นตัวเองค่ะ ขอให้คุณผู้หญิงมีความเป็นตัวเอง สวยใส มั่นใจ เท่านี้ก็พอ องค์ประกอบอย่างอื่นค่อยๆ จัดเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ 

ขาลาย แก้ไขได้ง่ายๆ


ขาลาย แก้ไขได้ง่ายๆ


ช่วงน้ำท่วมแบบนี้ คุณผู้หญิงที่กำลังเจอปัญหาขาลายเนื่องแมลง สัตว์กัดต่อย มีอาการแพ้เนื่องจากขาสัมผัสกับน้ำท่วมขังทำให้เกิดอาการคัน มีจุดด่างดำ รอยเกา บนเรียวขาที่เคยสวย หรือคุณผู้หญิงคนไหนที่ ขาลายอยู่แล้ว เรามีเคล็ดลับแก้ไข ขาลาย ให้กลับ มาเนียนสวยมาฝากกันค่ะ

ขาลาย แก้ไขได้ง่ายๆ
เตรีมดินสอพอง และ นำ้มะนาว นำผสมให้เข้ากันพอหมาดๆ แล้วนำมาทาบริเวณขาที่มีรอยจุดด่างดำ หรือตามรอยต่างๆ หมั่นทาทุกคนก่อนนอนไม่นาน รอยด่างดำนั้นๆ จะค่อยๆ หายไปค่ะ
    
ด้วยวิธีเพียงเท่านี้ ทั้งประหยัดและแสนง่าย คุณผู้หญิงก็หมดกังวลกับปัญหาขาลายได้แล้วใช่ไหมค่ะ ข้อควรจำคือต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจะให้หายทันใจภายในวันสองวันเป็นไปไม่ได้ค่ะ ยังไงหมั่นทำตามวิธีที่แนะนำดูนะคะ รับรองได้ผลแต่ต้องใช้เวลานิดนึงค่ะ

ผิวสวยใสครบสูตรด้วย 5 ขั้นตอนดูแลผิวสวย


ผิวสวยใสครบสูตรด้วย 5 ขั้นตอนดูแลผิวสวย



      เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่งต่างก็ร่วงโรยไปตามวัยดังนั้นผู้หญิงอย่างเราๆ ไม่ควรมองข้ามและละเลย ควรหมั่นดูแลผิวพรรณโดยเฉพาะใบหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วีซ่าเลยขอนำเอา ขั้นตอนของการดูแลผิวสวยครบสูตร 5 ขั้นตอน มาฝากไว้ให้คุณผู้หญิงนำขั้นตอนเหล่านี้ไปใช้ดูแลผิวสวยใส ไร้สิวกันค่ะ   
ผิวสวยใสครบสูตรด้วย 5 ขั้นตอนดูแลผิวสวย
         1. เริ่มด้วยการอบไอน้ำผิวด้วยการทำความสะอาดผิว เป็นการเคลียร์ผิวหน้าใส้สะอาดหมดจดก่อนเข้านอน โดยการเอาหน้าไปอังกับน้ำร้อนเพื่อเป็นใช้ไอน้ำเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขนช่วยขจัดสิ่งที่ตกค้างจากการล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าไม่สะอาดค่ะ เปิดรูขุมขนแล้วให้ไอน้ำได้เข้าไปขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในนั้น ที่โฟมหรือเจลล้างหน้าอาจล้างไม่สะอาดค่ะ
          2. ใช้คลีนเซอร์ทำความสะอาด หลังจากที่เปิดรูขุมขนด้วยการอบไอน้ำผิวแล้ว ให้ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าและลำคอ จากนั้นใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวคุณผู้หญิง ล้างและนวดให้ทั่วไปหน้าประมาณ 40 วินาที โดยเว้นรอบดวงตาไว้ จากนั้นล้างให้สะอาดด้วยน้ำ รอบ
          3. ใช้โทนเนอร์ปรับสภาพผิว หลังจากล้างหน้าและอาบน้ำแล้ว ทันทีที่เช็ดหน้าให้แห้งแล้ว ให้ใช้โทนเนอร์เช็ดเพื่อปรับสภาพผิวบำรุงผิวขั้นต้นก่อนเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนทาครีมบำรุงและมอยซ์เจอไรเซอร์บนใบหน้า
          4. ทามอยซ์เจอไรเซอร์ คุณผู้หญิงควรเลือกมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวโดยการใช้ทาให้ลงบนผิวหน้าให้ทั่วเป็นประจำทุกก่อนนอนทุกคืนเพื่อ เป็นการเติมน้ำให้ผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าของคุณผู้หญิงนุ่มชุ่มชื้นอย่าสัมผัสได้เลยค่ะ
          5. ขัดผิวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเลือกสครับขัดผิวกลิ่นที่คุณผู้หญิงชอบเพื่อขัดผิวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปและสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้กับผิวหน้านั่นเองค่ะ 
ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงมีผิวหน้าที่สวยสดใสไร้สิวได้ค่ะ ดังนั้นควรหมั่นดูแลใส่ใจผิวหน้าด้วยการดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอ  รับรองผิวหน้าสวยใสจะอยู่คู่คุณผู้หญิงไปอีกนานทีเดียวค่ะ 

ใบหน้าเนียนสวยด้วย 7 ขั้นตอน


ใบหน้าเนียนสวยด้วย 7 ขั้นตอน


เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนล้วนอยากมีใบหน้าที่เนียนสวยกระจ่างใสดูดีด้วยกันทั้งนั้น แต่ไม่รู้ว่าจะมีวิธีปรนนิบัติผิวหน้าอย่างไร เรามี 7ขั้นตอนเพื่อใบหน้าเนียนสวยกระจ่างใสมาฝากกัน ค่ะ
ใบหน้าเนียนสวยด้วย 7 ขั้นตอน
           1.ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เนื่องจากวิตามินอี เป็นอาหารผิวดีเลิศที่ช่วยในการฟื้นฟูให้ผิวเรียบเนียน ดังนั้น ควรเติมวิตามินอีบนผิวหน้าของคุณผู้หญิงบ่อยๆ นั่นเองค่ะ
2. นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับเป็นการพักผ่อนผิวพรรณอย่างแท้จริง จริงๆ แล้วไม่ได้มีผลแค่ใบหน้านะคะ แต่ยังส่งผลถึงผิวทุกส่วนเลยทีเดียว ดังนั้นคุณผู้หญิงควรนอนหลบพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึกเป็นดีที่สุดและควรนอนไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง ลองเข้านอนเร็วและนอนให้พอไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมงถ้าทำติดต่อกันได้ทุกคืนภายในเวลา 1 เดือนล่ะ ก็ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
           3. อบไอน้ำใบหน้า การอบไอน้ำหน้าด้วยการนำหน้าไปอังไอน้ำร้อนนั้นเป็นการทำความสะอาดใบหน้าชนิดที่เรียกว่าทำความสะอาดใบหน้าแบบลึกถึงรูขุมขนเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นวิธีนี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องสิว หรือใบหน้ามีปัญหาอะไรที่มีสาเหตุมาจากความสกปรก ก็ควรอบไอน้ำใบหน้าเพื่อให้สะอาดที่สุดค่ะ อย่าน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งเพื่อเป็นการทำความสะอาดใบหน้าของคุณผู้หญิงค่ะ
           4. ขัดผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่ โดยการใช้ผ้าขนหนูถูใบหน้าด้วยเจลล้างหน้าเบา ๆ หรือใช้สครับขัดใบหน้าเบา เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งวิธีนี้นับเป็นวิธีดีทีเดียวค่ะ แต่มีข้อระวังคือไม่ควรทำบ่อย ควรทำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอแล้วค่ะ ไม่ควรทำบ่อยเนื่องจากจะเป็นการทำให้หน้าเหี่ยวเร็วกว่าวัยอันควรค่ะ
           5. ทานทับทิม เนื่องจากในทับทิมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวในการเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ดังนั้นการทานทับทิมจึงเป็นวิธีการบำรุงผิวหน้าอย่างหนึ่งที่เราแนะนำค่ะ
           6. เมคอัพช่วยบ้างเพื่อใบหน้าสวยงามเหมาะกับสถานการณ์ ไม่ต้องเมคอัพหนา หรือแต่่งหน้าทุกวัน ควรเว้นให้ใบหน้าได้หายใจบ้าง ควรคุณสามารถแต่งหน้าเบา ๆ เพื่อเสริมความเนียนใสให้กับใบหน้าได้ง่าย ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะด้วยรองพื้นแบบบางเบา หรือคอนซีลเลอร์ ขอให้แต่งติดใบหน้าไว้บ้างเล็กน้อยพองาม
           7. ทามอยซ์เจอไรเซอร์สม่ำเสมอ หากคุณผู้หญิงมีสภาพผิวมัน ไม่ได้หมายความว่าคุณผู้หญิงมีความชุ่มชื้นหรือน้ำในผิวเยอะนะคะ ดังนั้น จึงควรทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์อย่างต่อเนื่องทุกวันโดยเฉพาะทาก่อนนอนค่ะ เพราะมอยซ์เจอไรเซอร์จะช่วยเติมน้ำให้ผิวและผลที่ได้ก็คือใบหน้าสวยเต่งตึงไม่แห้งเหี่ยวนั้นเองค่ะ
           เมื่อรู้เคล็ดลับหน้าเนียนสวยกันแล้ว ก็อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ที่แนะนำไปปรนนิบัติ ผิวหน้าของคุณผู้หญิงเพื่อใบหน้าเนียนสวยตราบนานเท่านานค่ะ

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยีสารสนเทศ


ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยีสารสนเทศ



หากต้องการ list ข้อดี และข้อเสียมากกว่านี้ อิเฎลของแนะนำให้วิเคราะห์เครื่องมือมือทางเทคโนโลยีเป็นชนิด ๆ ไป เช่น เปรียบเทียบ eBook Reader, หนังสือเรียนในปัจจุบัน, กับหนังสือใบลาน
ประโยชน์ของเทคโนโลยีทั่วไป
-1 ลดแรงงานคนในการทำงานต่าง ๆ เช่น ควบคุมการผลิต และช่วยในการคำนวน
-2 เพิ่มความสะดวกสะบายตั้งแต่ส่วนบุคคล จนถึงการคมนาคมและสื่อสารทั่วโลก
-3 เป็นแหล่งความบันเทิง
-4 ได้ผลผลิตที่มีมาตรฐาน เหมือนกันหมดทุดชิ้น ซึ่งอิเฎลเห็นว่าเป็นการลดคุณค่าของชิ้นงาน เพราะ Handmade คืองานชิ้นเดียวในโลก
-5 ลดต้นทุนการผลิต
-6 ทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
-7 ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม และ เกิดการกระจายโอกาศ
-8 ทำให้เกิดสื่อการเรียนการสอนต่างๆมากขึ้น
-9 ทำให้เกิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น
-10 ทำให้เกิดระบบการป้องกันประเทศที่มีประสิทธิภามมากยิ่งขึ้น
-11 ในกรณีของอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเลือกการผ่อนคลายได้ตามอิสระ
**ข้อ 6-10 อำนวยวิทยาทานโดยคุณ “หนูน้อยแสนฉลาด”
**ข้อ 11 อำนวยวิทยาทานโดย “อ. จุฬาภรณ์”
โทษของเทคโนโลยีทั่วไป
-1 สิ้นเปลืองทรัพยากร เช่น น้ำมัน แก็ส และถ่านหิน จนกระทั้งน้ำ
-2 เปลี่ยนสังคมชาวบ้าน ให้กลายเป็นวัตถุนิยม (อิเฎลไม่ชอบมาก ๆ)
-3 ทำให้มนุษย์ขาดการออกกำลังกาย
-4 ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน เพราะใช้แรงงานเครื่องจักรแทนแรงงานคน
-5 ทำให้เสียเวลา ทั้งจากรายการไร้สาระในโทรทัศน์ จนกระทั่งนัก chat
-6 หากใช้เว็ปไซด์จำพวก Social Network จะทำให้ผู้ใช้มีโลกเป็นของตนเอง ขาดการติดต่อกับผู้อื่น โดยเฉพาะที่เห็นชัดเจนเกิดช่องว่างระหว่างผู้สูงอายุกับเด็ก

บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ


 เทคโนโลยีสารสนเทศ

บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

          การเปลี่ยนแปลงสังคมความเป็นอยู่ของมนุษย์เป็นไปอย่างรวดเร็วกล่าวกันว่าได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เรียกว่าการปฏิวัติมาแล้วสองครั้งที่มนุษย์รู้จักใช้ระบบชลประทานเพื่อการเพาะปลูก สังคมความเป็นอยู่ของมนุษย์จึงเปลี่ยนจากการเร่ร่อนมาเป็นการตั้งหลักแหล่งเพื่อทำการเกษตร
          ต่อมาเมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากที่เจมส์วัตต์ประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำ มนุษย์รู้จักนำเอาเครื่องจักรมาช่วยในอุตสาหกรรมการผลิต และช่วยในการสร้างยานพาหนะเพื่องานคมนาคมขนส่ง ผลที่ตามมาทำให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม สังคมความเป็นอยู่ของมนุษย์จึงเปลี่ยนจากสังคมเกษตรมาเป็นสังคมเมือง และเกิดรวมกันเป็นเมืองอุตสาหกรรมต่างๆ
          ในช่วง พ.ศ. 2523 เป็นต้นมา ความเจริญก้าวหน้าทางด้านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างกว้างขวาง มีการส่งถ่ายข้อมูลระหว่างกันเป็นจำนวนมาก เกิดการประยุกต์งานด้านต่าง ๆ เช่น ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต การจองตั๋ว การซื้อสินค้า การติดต่อส่งข้อมูล เช่น โทรสาร (facsimile) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail )
          ชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ที่มีบทบาทเพิ่มขึ้น ใน พ.ศ. 2528 กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายให้วิชาคอมพิวเตอร์เป็นวิชาเลือกของหมวดวิชาคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย 2 รายวิชาคือ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมภาษาเบสิก
          ต่อมาพ.ศ. 2532 และพ.ศ. 2541 ก็เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมหลักสูตรทางด้านคอมพิวเตอร์อีกหลายวิชา และจัดกลุ่มอยู่ในวิชาอาชีพสาขาคอมพิวเตอร์
          ปัจจุบันมีโรงเรียนมัธยมศึกษาหลายแห่งทั่วประเทศเปิดการเรียนการสอนทางด้านคอมพิวเตอร์ขึ้น มีความจำเป็นเพียงไรที่จะต้องให้เยาวชนไทยเรียนรู้คอมพิวเตอร์ เมื่อมีวิชาพื้นฐานอื่น ๆ มากมายที่ต้องจะเรียน เหตุผลสำคัญสำหรับตอบคำถามนี้คือปัจจุบันความเป็นอยู่ของมนุษย์ในสังคมมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีข้อมูลมากขึ้น
          กิจวัตรในชีวิตประจำวันของมนุษย์เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมากขึ้นจนดูเหมือนว่าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งทำให้มนุษย์ได้รับความสะดวกสบายและประสบความสำเร็จในงานด้านต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีทางด้านอวกาศ ทางด้านการผลิตทางด้านอุตสาหกรรม และทางด้านพาณิชยกรรม
          การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคแรก เริ่มจากการใช้เครื่องจักรกลแทนการทำงานด้วยมือ พลังงานที่ขับเคลื่อนเครื่องจักรก็มาจากพลังงานน้ำ พลังงานไอน้ำ และเปลี่ยนมาเป็นพลังงานจากน้ำมันขับเคลื่อนเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าแทน ต่อมาการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้เกิดขึ้นอีกโดยเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานทีละขั้นตอนมาเป็นการทำงานระบบอัตโนมัติ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กลไกการควบคุมอัตโนมัติทำงาน เช่น การดำเนินงานผลิต การตรวจสอบ การควบคุม ฯลฯ การทำงานเหล่านี้อาศัยระบบการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
          อุตสาหกรรมทางด้านคอมพิวเตอร์เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และมีการเปลี่ยน แปลงตลอดเวลา ในระยะปีหรือสองปีข้างหน้ายากที่จะคาดเดาว่าจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ขึ้นมาอีกบ้าง ทั้งนี้เพราะขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสูงมาก โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับไมโครคอมพิวเตอร์ (micro computer )
          มีผู้กล่าวว่าการปฏิวัติครั้งที่สามกำลังจะเกิดขึ้น โดยสิ่งที่เกิดใหม่นี้ได้แก่การพัฒนาการทางด้านความคิด การตัดสินใจ โดยอาศัยหลักการของคอมพิวเตอร์ ในอนาคตอันใกล้ผู้จัดการเพียงคนเดียวอาจทำงานทั้งหมดโดยอาศัยระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม ทำการควบคุมหุ่นยนต์คอมพิวเตอร์ และให้หุ่นยนต์ควบคุมการทำงานของเครื่องจักรอีกต่อหนึ่ง
          ในระดับประเทศ ประเทศไทยสั่งเข้าสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงปริมาณมากจึงต้องซื้อเทคนิควิธีการ ตลอดจนเครื่องมือเครื่องจักรเข้ามามากตามไปด้วย ขณะเดียวกันเรายังขาดบุคลากรที่จะใช้เครื่องจักรเครื่องมือเหล่านั้นให้มีประสิทธิภาพ การสูญเสียเงินตราเนื่องจากสาเหตุนี้จึงเกิดขึ้นมิใช่น้อย หลายโรงงานยังไม่กล้าใช้เครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยี ใหม่ เพราะหาบุคลากรในการดำเนินการได้ยาก แต่ในระยะหลังค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น และการแข่งขันทางธุรกิจมีมากขึ้น จึงตกอยู่ในสภาวะจำยอมที่จะเอาเครื่องมือเหล่านั้นเข้ามา เนื่องจากเครื่องมือดังกล่าวให้ผลผลิตที่ดีกว่าของเดิม และมีราคาต้นทุนต่ำลงอีกด้วย
          ในหลักการเป็นที่ยอมรับว่า ความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมเกือบทุกแขนงมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ระบบการผลิตส่วนใหญ่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์แทรกเข้ามาเกือบทุกกระบวนการ ตั้งแต่การควบคุม การขนส่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ การวัดและการบรรจุหีบห่อ ตลอดถึงการใช้เครื่องทุ่นแรงบางอย่างเครื่องมือที่ใช้วัดเกือบทุกประเภทมักมีไมโครโพรเซสเซอร์ (microprocessor) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์เกี่ยวข้องด้วยเสมอ เช่น การวัดอุณหภูมิ วัดความดัน วัดความเร็วการไหล วัดระดับของเหลว วัดปริมาณค่าที่จำเป็นสำหรับการควบคุมคุณภาพ
          ในยุควิกฤตการณ์พลังงาน หลายประเทศพยายามลดการใช้พลังงาน โรงงานพยายามหาทางควบคุมพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อจะลดค่าใช้จ่ายลง จึงนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยควบคุม เช่น ควบคุมการเดินเครื่องให้เหมาะสม ควบคุมปริมาณการใช้พลังงานควบคุมการจัดภาระงานให้เหมาะสม รวมถึงการควบคุมสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ด้วยในยุควิกฤตการณ์พลังงาน หลายประเทศพยายามลดการใช้พลังงาน โรงงานพยายามหาทางควบคุมพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อจะลดค่าใช้จ่ายลง จึงนำเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยควบคุม เช่น ควบคุมการเดินเครื่องให้เหมาะสม ควบคุมปริมาณการใช้พลังงานควบคุมการจัดภาระงานให้เหมาะสม รวมถึงการควบคุมสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ด้วย

แหล่งข้อมูล      http://www.schoolsr.com/Test/index10.html